C
Chonburi's Michael
Gast
[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]ถล่มศูนย์ทุนนิยมโลก
พอเกิดการถล่มตึก World Trade เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 โลกก็ก้าวเข้าสู่วิกฤติใหญ่อีกแล้ว
หลังจากนั้น สหรัฐอเมริกาก็ประกาศสงครามกับขบวนการผู้ก่อการร้ายทั่วโลก และกับรัฐที่สหรัฐ เรียกว่ารัฐชั่วร้ายทั้งหลาย เหยื่อรายแรกคือ ประเทศอัฟกานิสถานซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่ยากจนเกือบที่สุดในโลก เหตุการณ์ 11 กันยายน และสงครามคือจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์โลก
สงครามระหว่างสหรัฐเอมริกากับอัฟกานิสถานครั้งนี้จะต่างจากสงครามที่ผ่านมา ทั้งหมด รวมทั้งจะต่างจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสอง น่าจะเป็นที่มาของการเปลี่ยนผ่านการประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่หรือการเปลี่ยน อารยธรรมของมนุษยชาติ ซึ่งทำให้นึกถึงงานเขียนของ Hazel Henderson นักคิดสตรีที่โด่งดังในยุคปัจจุบันที่นำเอาหลักทฤษฎี Chaos มาใช้อธิบายประวัติศาสตร์ปัจจุบัน และอนาคต ท่านแบ่งประวัติศาสตร์โลกออกเป็น 3 ช่วง
ช่วงแรกคือ ช่วง Chaos กล่าวคือ มีสภาวะปั่นป่วน ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม และทางด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการเกิดขึ้นของสงครามเล็ก ๆ ที่เริ่มก่อตัวขึ้น และขยายตัวไปทั่วโลก ประวัติศาสตร์ช่วงนี้น่าจะกินเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ถึง 20 ปี
หลังจากนั้น ท่านเรียกว่าช่วงประวัติศาสตร์แบบ Bifurcation หมายถึงช่วงที่อารยธรรมโลก ทุนนิยมเกิดการแตกตัวเป็นเสี่ยง ๆ ไม่มีชาติใดจะทำหน้าที่เป็นศูนย์ของระบบทุนโลกได้อีกต่อไป
ช่วงนี้จะเริ่มขึ้นเมื่อจักรวรรดิอเมริกาที่ยิ่งใหญ่ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์ของ ระบบทุนโลกก้าวถึงกาลพังพินาศ ซึ่งจะส่งผลทำให้ตลาดเงินและตลาดหุ้น และระบบเศรษฐกิจของระบบทุนโลกพลอยตกในสภาพวิกฤติรุนแรงและยาวนาน ภาษาอังกฤษคงใช้คำว่า The very Great Depression ในกรณีที่สหรัฐอเมริกาก้าวสู่สภาวะล่มสลาย และในเวลาเดียวกันอาจจะนำไปสู่การช่วงชิงอำนาจในระบบโลกใหม่ พร้อม ๆ กับความปั่นป่วนที่ก่อตัวไปทั่วระบบโลก จะผลักดันให้เกิดการจัดตั้งตัวเองของพลังประชาชน ( รากหญ้า ) ในรูปแบบที่หลากหลาย ช่วงนี้ก็อาจจะกินเวลาประมาณ 10 ถึง 20 ปี
หลังจากนี้ประวัติศาสตร์มนุษยชาติก็ก้าวสู่ช่วงกำเนิดอารยธรรมใหม่ หรือช่วง Breakthough อารยธรรมโลกใหม่จะก่อกำเนิดขึ้น ซึ่งจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากอารยธรรมทุนนิยม[/FONT] [FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]
[/FONT]
พอเกิดการถล่มตึก World Trade เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 โลกก็ก้าวเข้าสู่วิกฤติใหญ่อีกแล้ว
หลังจากนั้น สหรัฐอเมริกาก็ประกาศสงครามกับขบวนการผู้ก่อการร้ายทั่วโลก และกับรัฐที่สหรัฐ เรียกว่ารัฐชั่วร้ายทั้งหลาย เหยื่อรายแรกคือ ประเทศอัฟกานิสถานซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่ยากจนเกือบที่สุดในโลก เหตุการณ์ 11 กันยายน และสงครามคือจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์โลก
สงครามระหว่างสหรัฐเอมริกากับอัฟกานิสถานครั้งนี้จะต่างจากสงครามที่ผ่านมา ทั้งหมด รวมทั้งจะต่างจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสอง น่าจะเป็นที่มาของการเปลี่ยนผ่านการประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่หรือการเปลี่ยน อารยธรรมของมนุษยชาติ ซึ่งทำให้นึกถึงงานเขียนของ Hazel Henderson นักคิดสตรีที่โด่งดังในยุคปัจจุบันที่นำเอาหลักทฤษฎี Chaos มาใช้อธิบายประวัติศาสตร์ปัจจุบัน และอนาคต ท่านแบ่งประวัติศาสตร์โลกออกเป็น 3 ช่วง
ช่วงแรกคือ ช่วง Chaos กล่าวคือ มีสภาวะปั่นป่วน ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม และทางด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการเกิดขึ้นของสงครามเล็ก ๆ ที่เริ่มก่อตัวขึ้น และขยายตัวไปทั่วโลก ประวัติศาสตร์ช่วงนี้น่าจะกินเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ถึง 20 ปี
หลังจากนั้น ท่านเรียกว่าช่วงประวัติศาสตร์แบบ Bifurcation หมายถึงช่วงที่อารยธรรมโลก ทุนนิยมเกิดการแตกตัวเป็นเสี่ยง ๆ ไม่มีชาติใดจะทำหน้าที่เป็นศูนย์ของระบบทุนโลกได้อีกต่อไป
ช่วงนี้จะเริ่มขึ้นเมื่อจักรวรรดิอเมริกาที่ยิ่งใหญ่ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์ของ ระบบทุนโลกก้าวถึงกาลพังพินาศ ซึ่งจะส่งผลทำให้ตลาดเงินและตลาดหุ้น และระบบเศรษฐกิจของระบบทุนโลกพลอยตกในสภาพวิกฤติรุนแรงและยาวนาน ภาษาอังกฤษคงใช้คำว่า The very Great Depression ในกรณีที่สหรัฐอเมริกาก้าวสู่สภาวะล่มสลาย และในเวลาเดียวกันอาจจะนำไปสู่การช่วงชิงอำนาจในระบบโลกใหม่ พร้อม ๆ กับความปั่นป่วนที่ก่อตัวไปทั่วระบบโลก จะผลักดันให้เกิดการจัดตั้งตัวเองของพลังประชาชน ( รากหญ้า ) ในรูปแบบที่หลากหลาย ช่วงนี้ก็อาจจะกินเวลาประมาณ 10 ถึง 20 ปี
หลังจากนี้ประวัติศาสตร์มนุษยชาติก็ก้าวสู่ช่วงกำเนิดอารยธรรมใหม่ หรือช่วง Breakthough อารยธรรมโลกใหม่จะก่อกำเนิดขึ้น ซึ่งจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากอารยธรรมทุนนิยม[/FONT] [FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]
[/FONT]